ประเด็นสำคัญของบทความนี้
- ไฟฟ้าสถิตเกิดจากการเสียดสีระหว่างผนังด้านในของสายยางกับของไหลที่บรรจุอยู่ ซึ่งอาจทำให้สายยางอุดตันได้
- วิธีป้องกันไฟฟ้าสถิตมี 2 วิธีด้วยกันคือ
(1) ใช้สายยางที่มีสารป้องกันไฟฟ้าสถิต: แม้จะมีประสิทธิภาพ แต่ผลลัพธ์จะค่อยๆ ลดลงตามอายุการใช้งาน เราจึงต้องเปลี่ยนสายยางบ่อย
(2) ใช้สายยางนำไฟฟ้า: เหมาะกับการใช้งานที่เกี่ยวกับอาหารหรือเมื่อต้องการประสิทธิภาพระยะยาว เนื่องจากสามารถต่อสายดินได้
ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นในสายยางได้อย่างไร
ตอนนี้เราจะมาดูคำถามจาก Hose Adviser PRO ที่ทุกคนควรรู้กัน

อะไรคือสาเหตุหลักที่ทำให้ไฟฟ้าสถิตสะสมในสายยาง
เลือกจากข้อ ก, ข และ ค
ก. แรงดันในสายยางสูงเกินไป
ข. ใช้งานสายยางในสภาพแวดล้อมที่มีอุณหภูมิต่ำ
ค. เนื่องจากการเสียดสีระหว่างผนังด้านในของสายยางกับของไหลที่บรรจุอยู่

คำตอบที่ถูกต้องคือข้อ ค เนื่องจากการเสียดสีระหว่างผนังด้านในของสายยางกับของไหลที่บรรจุอยู่ มาดูรายละเอียดกัน
มาดูกันให้ละเอียดยิ่งขึ้น
ไฟฟ้าสถิตเกิดขึ้นได้ง่ายในวัสดุเรซิน เช่น พลาสติกและยาง ซึ่งมีคุณสมบัติเป็นฉนวนสูง รวมถึงในสิ่งทอละเอียด ผงแห้ง และสารที่คล้ายกันอีกด้วย สายยางที่ทำจากวัสดุเรซินเป็นหลักก็สร้างไฟฟ้าสถิตได้ เมื่อของไหลไหลผ่านเสียดสีกับผนังด้านในของสายยาง

ไฟฟ้าสถิตที่สะสมบนผนังด้านในจะดึงดูดวัสดุที่ไหลภายในสายยางและอาจทำให้วัสดุเหล่านั้นติดแน่นกับผนัง ทำให้ขัดขวางการลำเลียงของไหลและทำให้สายยางอุดตัน เนื่องจากไฟฟ้าสถิตสามารถสร้างประกายไฟเมื่อคายประจุและอาจก่อให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงได้ เช่น ไฟไหม้หรือการระเบิด จึงจำเป็นต้องมีมาตรการป้องกันที่เหมาะสม
มาตรการป้องกันไฟฟ้าสถิตสำหรับสายยางมีอะไรบ้าง
วิธีในการป้องกันไฟฟ้าสถิตในระบบท่อสายยางมีวิธีหลัก 2 วิธีด้วยกัน คือ
(1) ใช้สายยางที่มีสารป้องกันไฟฟ้าสถิต
(2) ใช้สายยางนำไฟฟ้าที่สามารถต่อสายดินได้
(1) ใช้สายยางที่มีสารป้องกันไฟฟ้าสถิต
สารป้องกันไฟฟ้าสถิตเป็นสารเติมแต่งที่ป้องกันการสะสมของไฟฟ้าสถิตในสายยาง การใช้สายยางที่มีสารป้องกันไฟฟ้าสถิตสามารถลดการสะสมของไฟฟ้าสถิตได้อย่างมาก ทำให้โอกาสอุดตันมีน้อยลง ข้อดีหลักอย่างหนึ่งคือระบบท่อสามารถป้องกันจากไฟฟ้าสถิตได้เพียงแค่เชื่อมต่อกับข้อต่อเหมือนสายยางทั่วไป อย่างไรก็ตาม สารป้องกันไฟฟ้าสถิตจะค่อยๆ สลายไปตามเวลาเมื่อใช้สายยาง ทำให้จำเป็นต้องเปลี่ยนสายยางบ่อย ปัญหาอีกอย่างคือไม่สามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตได้อย่างสมบูรณ์ นอกจากนี้ เนื่องจากสารป้องกันไฟฟ้าสถิตอาจละลายลงในของไหล จึงไม่เหมาะสำหรับการใช้งานด้านอาหาร ต้องแน่ใจว่าได้ตรวจสอบเงื่อนไขการทำงานเมื่อเลือกสายยาง
(2) ใช้สายยางนำไฟฟ้าที่สามารถต่อสายดินได้
สายยางนำไฟฟ้ามีวัสดุนำไฟฟ้า เช่น เส้นด้ายนำไฟฟ้าหรือลวด ซึ่งกระแสไฟฟ้าสามารถไหลผ่านได้ การติดแคลมป์พิเศษที่ปลายทั้งสองด้านของสายยางและต่อสายดิน สามารถป้องกันไฟฟ้าสถิตได้อย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งต่างจากสารป้องกันไฟฟ้าสถิต เพราะผลการป้องกันไฟฟ้าสถิตสามารถคงอยู่ได้เป็นเวลานาน ทำให้สามารถป้องกันการอุดตันได้อย่างน่าเชื่อถือกว่าเดิม
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากต้องติดแคลมป์พิเศษที่ปลายทั้งสองด้าน การติดตั้งจึงต้องใช้งานมากกว่าสายยางทั่วไป สายยางประเภทนี้เหมาะสำหรับระบบท่อสายยางที่ต้องการการป้องกันไฟฟ้าสถิตที่น่าเชื่อถือและยาวนาน และสำหรับการลำเลียงผงในการใช้งานด้านอาหารและเครื่องสำอาง
①สำหรับลำเลียงเม็ดเรซิน ②สำหรับลำเลียงเม็ดเรซินทนต่อความร้อน ③สำหรับลำเลียงผงอาหารและวัสดุเม็ด ④สำหรับลำเลียงสารเคมีและตัวทำละลาย

①รุ่น:TPE ②รุ่น:TPE100C ③รุ่น:TFE ④รุ่น:FFE
* ต้องใช้คลิปต่อสายดินพิเศษสำหรับ TPE, TPE100C และ TFE
Toyox มีสายยางหลากหลายรุ่นที่มีสารป้องกันไฟฟ้าสถิต รวมถึงสายยางนำไฟฟ้าที่สามารถต่อสายดินได้
สายยางเหล่านี้ไม่เพียงแต่ป้องกันการอุดตัน แต่ยังช่วยยกระดับประสิทธิภาพการผลิต ลดการสูญเสียผลิตภัณฑ์ และรับรองความปลอดภัยได้ ขอเชิญลองใช้งานได้เลย

สายยางป้องกันไฟฟ้าสถิต
ด้านล่างคือรายชื่อสายยางป้องกันไฟฟ้าสถิตระดับสูง
■ คลิกที่นี่สำหรับวิดีโอเปรียบเทียบผลการป้องกันไฟฟ้าสถิต
■ คลิกที่นี่สำหรับวิดีโอที่อธิบายวิธีติดตั้งคลิปต่อสายดิน
จบการอธิบายจุดสำคัญของมาตรการป้องกันไฟฟ้าสถิตสำหรับสายยาง
หากมีคำถามหรือต้องการคำปรึกษาในเรื่องอื่น ๆ โปรดติดต่อสำนักงานบริการลูกค้าของ TOYOX
โทรศัพท์: 038-454-854
ปัญหาไฟฟ้าสถิตมักเกิดขึ้นบ่อยในฤดูแล้ง และเมื่อไฟฟ้าสถิตสะสมในสายยาง วัตถุดิบจะเริ่มติดกับผนังด้านใน ทำให้การไหลติดขัดและเกิดการอุดตันการอุดตันดังกล่าวสามารถป้องกันได้โดยใช้มาตรการป้องกันไฟฟ้าสถิตที่เหมาะสม นำไปสู่การผลิตที่มั่นคงและการทำงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นในบทความนี้ เกร็ดความรู้โดย Hose Adviser PRO จะอธิบายเรื่องสำคัญในมาตรการป้องกันไฟฟ้าสถิตเพื่อเพิ่มผลผลิต